ระบบ E-TAX จำเป็นต้องขึ้นพร้อมกันทั้งบริษัทฯ หรือไม่?

สามารถขึ้นก่อนบางระบบงานได้ การนำระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt มาใช้ในบริษัทไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงระบบพร้อมกันทั้งบริษัทในทันที สามารถดำเนินการปรับใช้อย่างเป็นขั้นตอนตามความเหมาะสมขององค์กร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความต้องการของแต่ละแผนกหรือกระบวนการทางธุรกิจ

แนวทางการปรับใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt อย่างเป็นขั้นตอน

1. เริ่มใช้กับบางแผนกหรือบางส่วนของธุรกิจ: บริษัทสามารถเริ่มนำระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt มาใช้ในแผนกที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ฝ่ายบัญชี การเงิน หรือแผนกจัดซื้อ โดยทดสอบกระบวนการและทำการปรับปรุงก่อนที่จะขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของบริษัท
2. เลือกใช้เฉพาะธุรกรรมบางประเภท: บริษัทสามารถเลือกทำ e-Tax Invoice & e-Receipt เฉพาะกับใบกำกับภาษีบางส่วน เช่น การออกใบกำกับภาษีสำหรับลูกค้าหรือคู่ค้าที่ใช้ระบบดิจิทัล หรือการทำ e-Withholding Tax สำหรับคู่ค้ารายใหญ่ก่อน
3. ฝึกอบรมพนักงาน: อบรมพนักงานในแต่ละแผนกที่เกี่ยวข้องกับการใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนเข้าใจการใช้งานระบบใหม่และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. เตรียมการรองรับด้านเทคโนโลยี: หากบริษัทมีระบบซอฟต์แวร์หรือระบบ ERP อยู่แล้ว การทำงานร่วมกับระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt จะต้องเตรียมการด้านการปรับตั้งค่าเพื่อให้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

สรุป

ดังนั้น บริษัทไม่จำเป็นต้องขึ้นระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt พร้อมกันทั้งองค์กร สามารถเลือกปรับใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามความเหมาะสม และเมื่อมีความมั่นใจในกระบวนการทำงานแล้ว ก็สามารถขยายการใช้งานไปทั่วทั้งบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ