“เอ็กซพีเรียน” เผยผลวิจัยกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยต้องการความปลอดภัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
มากกว่าความสะดวกสบายในการใช้บริการดิจิทัล

        มร.เดฟ ดิมาน กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดเกิดใหม่ บริษัท เอ็กซพีเรียน เปิดเผยว่า
รายงานประจำปีของเอ็กซพีเรียนด้านอัตลักษณ์บุคคล (การพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล) และการทุจริต (Global Identity and
Fraud Report) ฉบับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยทำการศึกษาจากผู้บริโภคเกือบ 6,000 รายและองค์กรธุรกิจ 590
แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงกลุ่มผู้บริโภค 546 รายและกลุ่มธุรกิจซึ่งเป็นบริษัท 50 แห่งในประเทศ ไทย พบว่า

        ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ 69% ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของประสบการณ์การใช้งานออนไลน์ ตามด้วย
ความสะดวกสบาย 20% และ ความชอบเฉพาะบุคคล 11%

นอกจากนี้ ยังพบว่าธุรกิจในประเทศ ไทย 40% ได้ประสบกับความสูญเสียที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทางออนไลน์ในช่วง
12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการขโมยบัญชีใช้งานและเปิดบัญชีปลอม

        จากผลการสำรวจพบว่า 66% ของผู้บริโภคในประเทศไทยรู้สึกว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลในสังคมดิจิทัลของตัวเอง แลกกับความสะดวกสบายนั้น
ถือเป็นเรื่องส่วนตัว โดยที่พบว่า 63% ของธุรกิจในประเทศไทยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น
เพื่อพัฒนาประสบการณ์หรือเพื่อใช้ในการนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

        มร.เดฟ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยได้รับการผลักดันด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ
รวมถึงจำนวนประชากรออนไลน์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีอัตราเฉลี่ยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากถึง 5
ชั่วโมงต่อวันผ่านทางอุปกรณ์มือถือ ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก
ในขณะที่วิธีการรักษาความปลอดภัยที่ใช้อยู่ในองค์กรนั้นยังคงเป็นเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม
ผลการวิจัยพบว่าผู้บริโภคชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่และโซลูชั่นพิสูจน์ตัวตนที่ล้ำสมัย ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจสอบตัวตนชีวมิติ
(biometrics) ทั้งลักษณะทางกายภาพและลักษณะทางพฤติกรรมแบบที่ผู้ใช้คุ้นเคยของธนาคารในประเทศไทย
มีมาตรฐานในระดับที่สูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

        ทั้งนี้ 84% ของผู้บริโภคชาวไทย เชื่อมั่นต่อความปลอดภัยแบบระบบตรวจสอบชีวมิติทางกายภาพ ของธนาคารออน
ไลน์ว่ามีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูง ในขณะที่ 80%
ระบุว่ามีความเชื่อมั่นสูงต่อระบบการตรวจสอบทางชีวมิติแบบลักษณะทางพฤติกรรมการใช้งานของตนเอง (behavioral
bio-metrics) และ ปัจจุบันผู้ให้บริการระบบการชำระเงินในประเทศไทยได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากผู้บริโภค 76%
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลไทยในความพยายามผลักดันการใช้ธุรกรรมดิจิทัลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครง การไทยแลนด์ 4.0.

ที่มา : เดลินิวส์

Original Photo by : katemangostar / Freepik